เคยไหมที่รู้สึกอยากหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองกรุง ไปหาสถานที่ที่ยังคงความสงบงดงาม มีกลิ่นอายของวิถีชีวิตชาวประมง และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์? สำหรับฉันแล้ว 'ประจวบคีรีขันธ์' คือคำตอบนั้นเสมอค่ะ!
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์อาจไม่ใช่จุดหมายแรกๆ ที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินึกถึงเท่าหัวหินหรือพัทยา แต่สำหรับคนไทยหลายคน โดยเฉพาะคนที่หลงใหลในความเรียบง่ายและเสน่ห์แบบดั้งเดิม ประจวบฯ คือเพชรเม็ดงามริมอ่าวไทยที่รอให้คุณไปค้นพบ

ในฐานะคนที่หลงรักจังหวัดนี้อย่างหมดใจ วันนี้ฉันอยากจะพาทุกคนไปสำรวจ 'วิธีการ' ที่คุณจะได้สัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของประจวบคีรีขันธ์ในแบบฉบับที่ไม่เหมือนใคร เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาฟังเรื่องราวการเดินทางที่เต็มไปด้วยความประทับใจ เคล็ดลับดีๆ และสถานที่ไม่ควรพลาดกันค่ะ!
ทำไมต้องประจวบคีรีขันธ์? มากกว่าแค่ทางผ่านสู่ภาคใต้
หลายคนอาจรู้จักประจวบฯ ในฐานะเมืองทางผ่านก่อนลงใต้ แต่จริงๆ แล้วที่นี่มีอะไรมากกว่านั้นมากค่ะ ลองนึกภาพเมืองเล็กๆ ริมทะเลที่ทอดตัวยาวขนานไปกับภูเขา มีอ่าวโค้งมนสวยงาม ชายหาดที่ทอดยาวสุดสายตา และวิถีชีวิตที่ดำเนินไปอย่างช้าๆ ผู้คนยิ้มแย้ม เป็นกันเอง
เสน่ห์ของประจวบฯ คือความลงตัวระหว่างธรรมชาติ วัฒนธรรม และความเป็นท้องถิ่น ที่นี่คุณจะได้เห็นทั้งทิวทัศน์ภูเขาหินปูนอันตระการตา ป่าโกงกางที่อุดมสมบูรณ์ ชายหาดน้ำใสสะอาด วัดวาอารามที่สวยงาม และแน่นอนว่า...อาหารทะเลสดๆ ที่รอให้คุณมาลิ้มลอง
สำหรับฉันแล้ว ประจวบฯ มอบความรู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน ได้พักผ่อนอย่างแท้จริง ไม่ต้องเร่งรีบ ไม่ต้องแก่งแย่ง เพียงแค่ปล่อยใจไปกับธรรมชาติ และวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ที่นี่จะทำให้คุณตกหลุมรักได้อย่างไม่ยากเลยค่ะ
การเดินทางไปประจวบคีรีขันธ์: มาได้หลายเส้นทาง ง่ายกว่าที่คิด
การเดินทางมายังประจวบคีรีขันธ์นั้นสะดวกสบายมาก ไม่ว่าคุณจะเลือกเดินทางแบบไหน ก็สามารถมาถึงที่นี่ได้ไม่ยากค่ะ
รถยนต์ส่วนตัว: อิสระและสะดวกสบาย
เส้นทางยอดนิยมที่สุดคือการขับรถส่วนตัวจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร) ผ่านถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่สภาพดีตลอดสาย ข้อดีของการเดินทางด้วยรถส่วนตัวคือ คุณสามารถแวะเที่ยวระหว่างทางได้ตามใจชอบ และสะดวกสบายในการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในประจวบฯ
รถไฟ: สัมผัสเสน่ห์การเดินทางแบบคลาสสิก
สำหรับใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศการเดินทางแบบช้าๆ ชื่นชมวิวทิวทัศน์สองข้างทาง การนั่งรถไฟเป็นทางเลือกที่โรแมนติกไม่น้อยค่ะ มีรถไฟออกจากสถานีหัวลำโพงและสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ไปยังสถานีประจวบคีรีขันธ์หลายขบวนต่อวัน ใช้เวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมง แม้จะใช้เวลานานกว่า แต่รับรองว่าคุณจะได้ประสบการณ์ที่น่าจดจำ
รถโดยสารประจำทาง: ประหยัดและเข้าถึงง่าย
มีรถโดยสารปรับอากาศหลายบริษัทให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ-ประจวบคีรีขันธ์ ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง เป็นอีกทางเลือกที่สะดวกและประหยัด เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ไม่มีรถส่วนตัว เมื่อไปถึงสถานีขนส่งประจวบคีรีขันธ์ คุณสามารถต่อรถสองแถว รถแท็กซี่ หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้าไปยังที่พักได้
ที่พักในประจวบคีรีขันธ์: เลือกแบบไหนดี?
ที่พักในประจวบฯ มีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่เกสต์เฮาส์ราคาประหยัด ไปจนถึงรีสอร์ตสวยๆ ริมทะเล ขึ้นอยู่กับสไตล์การเดินทางและงบประมาณของคุณค่ะ
บริเวณอ่าวประจวบ: หากคุณอยากสัมผัสวิถีชีวิตคนเมือง เดินทางสะดวก ใกล้ตลาด และแหล่งของกินอร่อยๆ แถวอ่าวประจวบมีโรงแรมและเกสต์เฮาส์ให้เลือกมากมาย ส่วนใหญ่จะอยู่ในระยะที่เดินถึงถนนคนเดินและร้านอาหาร
อ่าวมะนาว: สำหรับใครที่อยากพักผ่อนริมทะเลจริงๆ อ่าวมะนาวเป็นตัวเลือกที่ดี มีรีสอร์ตและโรงแรมหลายแห่งตั้งอยู่ริมหาด ให้คุณได้ตื่นมาพร้อมกับวิวทะเลสวยๆ และลงเล่นน้ำได้ทันที
รอบนอกเมือง/อุทยานสามร้อยยอด: หากคุณต้องการความสงบเป็นพิเศษ และเน้นการท่องเที่ยวธรรมชาติ บริเวณรอบนอกเมือง หรือใกล้กับอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดก็มีรีสอร์ตสไตล์บูติก หรือโฮมสเตย์ที่เน้นความเป็นส่วนตัวและใกล้ชิดธรรมชาติ
ไม่ว่าจะเลือกพักที่ไหน อย่าลืมจองล่วงหน้า โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวนะคะ
ห้ามพลาด! สถานที่และกิจกรรมเด่นในประจวบคีรีขันธ์
มาถึงส่วนที่สำคัญที่สุดแล้วค่ะ! ประจวบฯ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม และวิถีชีวิต มาดูกันว่ามีอะไรที่คุณไม่ควรพลาดบ้าง
เขาช่องกระจก: จุดชมวิวเมืองและฝูงลิงแสนซน
หากถามว่ามาประจวบฯ แล้วต้องไปที่ไหนเป็นอันดับแรก ฉันจะตอบว่า 'เขาช่องกระจก' ทันทีค่ะ! ที่นี่คือสัญลักษณ์ของเมืองประจวบฯ เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่กลางอ่าวประจวบ มียอดเขาที่สามารถมองเห็นวิวเมืองประจวบฯ และอ่าวสามอ่าว (อ่าวประจวบ อ่าวเกาะหลัก อ่าวน้อย) ได้แบบพาโนรามา
วิธีการพิชิต: การขึ้นเขาช่องกระจกต้องเดินขึ้นบันได 396 ขั้น อาจจะเหนื่อยสักหน่อย แต่เมื่อขึ้นไปถึงยอด คุณจะลืมความเหนื่อยล้าไปเลยค่ะ
สิ่งที่ไม่ควรพลาด:
พระพุทธบาทจำลอง: บนยอดเขามีมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองให้ได้สักการะ
วิวหลักล้าน: ชมทัศนียภาพของเมืองและอ่าวที่สวยงามที่สุด โดยเฉพาะช่วงเช้าตรู่หรือช่วงเย็น
เพื่อนร่วมทาง: เตรียมใจไว้ได้เลยว่าจะมี 'ฝูงลิง' คอยต้อนรับคุณตลอดทาง ระวังข้าวของสัมภาระให้ดีนะคะ!
อ่าวมะนาว: ชายหาดประวัติศาสตร์และแหล่งพักผ่อนริมทะเล
อีกหนึ่งอัญมณีของประจวบฯ ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองคือ 'อ่าวมะนาว' ซึ่งตั้งอยู่ในเขตของกองบิน 5 อ่าวมะนาวเป็นชายหาดที่สวยงาม สะอาด น้ำทะเลใส เหมาะแก่การเล่นน้ำและพักผ่อน
ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ: ที่นี่เคยเป็นสมรภูมิสำคัญในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อกองทัพญี่ปุ่นยกพลขึ้นบก คุณจะเห็นอนุสรณ์สถานและเครื่องบินเก่าแก่จัดแสดงอยู่ด้วย
กิจกรรมที่แนะนำ:
เล่นน้ำทะเล: น้ำใสและตื้น เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว
ปั่นจักรยาน: มีจักรยานให้เช่าปั่นเลียบหาด ชมวิวทิวทัศน์
พักผ่อนริมหาด: นั่งเล่นใต้ร่มเงาสน ทานอาหารทะเลสดๆ ที่ร้านค้าสวัสดิการ
เยี่ยมชมอนุสรณ์สถาน: เรียนรู้ประวัติศาสตร์การรบอันกล้าหาญของทหารอากาศไทย
วัดอ่าวน้อย: วัดถ้ำไม้สักแกะสลักอันงดงาม
ออกนอกเมืองมาไม่ไกลนัก คุณจะพบกับ 'วัดอ่าวน้อย' หรือชื่อเต็มว่า 'วัดบึงบัว' ที่นี่เป็นวัดที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง โดยมีไฮไลต์อยู่ที่ถ้ำพระ และงานแกะสลักไม้ที่วิจิตรงดงาม
สิ่งที่น่าสนใจ:
วิหารไม้สัก: ชมความงามของสถาปัตยกรรมไม้สักที่สร้างอย่างประณีต
ถ้ำพระ: ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การนั่งสมาธิ
วิวทะเล: วัดตั้งอยู่ริมอ่าวอ่าวน้อย มองเห็นวิวทะเลที่สวยงามไม่แพ้ที่ไหนๆ
พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ: อัญมณีแห่งการศรัทธา
หากมีเวลาเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อย ขอแนะนำให้เดินทางไปทางใต้ของประจวบฯ เพื่อไปสักการะ 'พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ' ที่ตั้งอยู่บนยอดเขากระออม ตำบลธงชัย อำเภอบางสะพานน้อย
เจดีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามผสมผสานศิลปะไทยหลายยุคสมัย และที่สำคัญคือวิวทิวทัศน์จากจุดนี้งดงามสุดลูกหูลูกตา สามารถมองเห็นท้องทะเลและผืนป่าที่เขียวขจี
อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด: สวรรค์ของคนรักธรรมชาติ
นี่คือไฮไลต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประจวบฯ! 'อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด' เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของไทย ที่นี่คือแหล่งรวมความหลากหลายทางชีวภาพอย่างแท้จริง ทั้งภูเขาหินปูน ป่าชายเลน หาดทราย บึงน้ำจืด และถ้ำ
สถานที่ท่องเที่ยวภายในอุทยานที่ห้ามพลาด:
ถ้ำพระยานคร: ถือเป็นไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง การเดินทางไปถ้ำพระยานครต้องนั่งเรือจากบ้านบางปู หรือเดินข้ามเขา (ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที) จากนั้นจึงเดินเท้าขึ้นไปยังปากถ้ำ ภายในถ้ำมี 'พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์' พลับพลาจตุรมุขที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 แสงแดดที่ส่องลงมาจากปล่องถ้ำกระทบองค์พระที่นั่ง สร้างภาพที่งดงามและน่าอัศจรรย์ใจอย่างยิ่ง
ทุ่งสามร้อยยอด: บึงน้ำจืดขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยดอกบัวและนกนานาชนิด โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาว จะมีนกอพยพมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เหมาะสำหรับคนรักการดูนกและถ่ายภาพ
คลองเขาแดง: ล่องเรือชมความงามของป่าชายเลนและภูเขาหินปูน ชมวิถีชีวิตชาวประมง และอาจมีโอกาสพบนกน้ำหายาก
จุดชมวิวเขาแดง: อีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของอุทยานและอ่าวได้อย่างกว้างขวาง
ตลาดโต้รุ่งประจวบคีรีขันธ์: แหล่งรวมของอร่อยและสีสันยามค่ำคืน
ตกเย็นแล้วท้องก็เริ่มร้อง! อย่าพลาดไปเดินเล่นที่ 'ตลาดโต้รุ่งประจวบคีรีขันธ์' ที่นี่คือแหล่งรวมของกินอร่อยๆ ทั้งอาหารทะเลสดๆ ย่าง แกง ทอด ของหวาน ขนมไทย และอาหารพื้นเมืองต่างๆ บรรยากาศคึกคักเป็นกันเอง เป็นโอกาสดีที่คุณจะได้ลิ้มลองรสชาติท้องถิ่นในราคาที่ไม่แพง
ลิ้มลองรสชาติท้องถิ่น: อาหารการกินที่ไม่ควรพลาด
มาถึงประจวบฯ ทั้งที จะพลาดเรื่องอาหารไปได้อย่างไรคะ? ที่นี่มีของอร่อยมากมาย โดยเฉพาะอาหารทะเลสดๆ ที่ส่งตรงจากชาวประมง
อาหารทะเลสดๆ: กุ้ง หอย ปู ปลาหมึก สดใหม่จากทะเล นำมาปรุงเป็นเมนูต่างๆ ทั้งปลาหมึกย่าง กุ้งเผา แกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว หอยเชลล์อบเนย รับรองว่าฟิน!
อาหารเช้าสไตล์ประจวบฯ: ลองตื่นเช้าไปหาโจ๊กหมู ปลาท่องโก๋ หรือข้าวแกงอร่อยๆ ที่ร้านอาหารท้องถิ่น
ขนมหวานไทย: มีร้านขนมหวานอร่อยๆ หลายร้าน ทั้งขนมใส่ไส้ ขนมตาล และของหวานอื่นๆ อีกมากมาย
ของฝาก: อย่าลืมซื้อปลาเค็ม ปลาหมึกแห้ง กะปิ และสินค้าแปรรูปจากทะเลกลับไปเป็นของฝากนะคะ
เคล็ดลับดีๆ สำหรับนักเดินทาง
เพื่อให้การเดินทางของคุณราบรื่นและน่าประทับใจยิ่งขึ้น นี่คือเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ จากฉันค่ะ
ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ช่วงปลายฝนต้นหนาว (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์) เป็นช่วงที่อากาศดี ท้องฟ้าโปร่งสบาย เหมาะแก่การท่องเที่ยวที่สุดค่ะ
การเดินทางในท้องถิ่น: หากไม่ได้นำรถส่วนตัวมา สามารถใช้บริการรถสองแถว รถแท็กซี่ หรือเช่ามอเตอร์ไซค์/จักรยาน เพื่อเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้สะดวก
เตรียมตัวให้พร้อม: เตรียมครีมกันแดด หมวก แว่นตา ชุดว่ายน้ำ และรองเท้าที่ใส่สบายสำหรับเดินขึ้นเขาหรือเดินป่า
เคารพธรรมชาติและวัฒนธรรม: ช่วยกันรักษาความสะอาด ไม่ทิ้งขยะ และแต่งกายสุภาพเมื่อเข้าเยี่ยมชมวัดวาอาราม
เปิดใจรับวิถีท้องถิ่น: ลองพูดคุยกับชาวบ้าน ถามไถ่เรื่องราวต่างๆ คุณอาจจะได้พบกับมิตรภาพและเรื่องเล่าดีๆ กลับบ้านไป
ตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยว 3 วัน 2 คืน: สัมผัสประจวบฯ แบบเต็มอิ่ม
เพื่อช่วยให้คุณวางแผนได้ง่ายขึ้น นี่คือตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยว 3 วัน 2 คืน ที่ฉันอยากแนะนำค่ะ
วันที่ 1: เสน่ห์เมืองเก่าและวิวหลักล้าน
เช้า: เดินทางถึงประจวบฯ เช็คอินเข้าที่พัก
บ่าย: ไปพิชิต เขาช่องกระจก ชมวิว 3 อ่าว และทักทายฝูงลิง
เย็น: เดินเล่น อ่าวประจวบ ถ่ายรูปกับสะพานปลา และปิดท้ายด้วยการฝากท้องที่ ตลาดโต้รุ่งประจวบคีรีขันธ์
วันที่ 2: วันแห่งทะเลและธรรมชาติ
เช้า: ไปพักผ่อนที่ อ่าวมะนาว เล่นน้ำทะเลใสๆ และเดินเล่นบริเวณกองบิน 5
บ่าย: เยี่ยมชม วัดอ่าวน้อย สัมผัสความงามของถ้ำไม้สักแกะสลัก หรือหากมีแรงและเวลาเพียงพอ เดินทางไป พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ เพื่อชมวิวอันตระการตา
เย็น: ลิ้มลองอาหารทะเลสดๆ ริมอ่าวประจวบ หรือร้านอาหารชื่อดังในเมือง
วันที่ 3: ผจญภัยในอุทยานแห่งชาติ
เช้า: เดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด เริ่มต้นด้วยการนั่งเรือหรือเดินเขาไป ถ้ำพระยานคร ชมพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์อันเลื่องชื่อ
บ่าย: อาจจะแวะ ทุ่งสามร้อยยอด ดูนก (ช่วงที่เหมาะสม) หรือล่องเรือ คลองเขาแดง
เย็น: เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ
เส้นทางนี้เป็นเพียงแนวทาง คุณสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความสนใจและความชอบส่วนตัวเลยนะคะ!
บทสรุป: ประจวบคีรีขันธ์ เมืองที่รอให้คุณมาสัมผัส
ประจวบคีรีขันธ์อาจไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวที่หวือหวา แต่คือเมืองที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว มีความสงบเรียบง่าย ซ่อนเร้นไปด้วยความงดงามทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตของผู้คน ที่จะทำให้คุณหลงรักและอยากกลับมาเยือนอีกครั้งแล้วครั้งเล่า
จากเขาช่องกระจกที่มองเห็นวิวสุดลูกหูลูกตา ไปจนถึงความยิ่งใหญ่ของถ้ำพระยานครในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ทุกที่ในประจวบฯ ล้วนมีเรื่องราวและความประทับใจรอคุณอยู่
หากคุณกำลังมองหาทริปพักผ่อนที่ไม่ต้องเร่งรีบ ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ และสัมผัสกับเสน่ห์ของเมืองไทยในอีกมุมหนึ่ง ฉันขอชวนคุณมาลองเปิดใจให้ประจวบคีรีขันธ์สักครั้งค่ะ รับรองว่าคุณจะค้นพบมนต์เสน่ห์ที่ทำให้คุณอยากจะเก็บที่นี่ไว้ในความทรงจำไปอีกนานแสนนาน แล้วมาเล่าให้ฟังด้วยนะคะว่าคุณหลงรักอะไรในประจวบฯ!